สรุปผลการเข้าช่วยเหลือ ยายหลานทานข้าวกับเกลือ

 

          จากกรณีที่ ผม กับ พี่ฝน Wilaiporn Chaiya โพสบอกเล่าเรื่องราว ของยายหลานที่ลำบากหาทางทางออกในชีวิตไม่ได้จนอยากลาโลก หลานต้องทานข้าวกับเกลือ จนเป็นที่มาของการยื่นมือเข้าช่วยเหลือในนามสะพานบุญของพี่ฝน ผมและทุกภาคส่วน ซึ่งเราไม่สนใจว่าเรื่องราวความเป็นมาของเรื่องนี้ แท้จริงเป็นอย่างไร เราสนแค่เพียงว่า เด็กต้องได้เรียน ต้องได้ทานข้าวเพื่อพัฒนาการสมวัย



ภายหลังการเผยแพร่ ได้มีเพื่อนๆหลายคนทั้งเพื่อนของพี่ฝน และเพื่อนในเฟสให้ความช่วยเหลือ ในส่วนของยอดเงินโอนเข้าบัญชีมีคนบริจาคเงินโอนผ่านบัญชีพี่ฝนรวมทั้งสิ้น 21,428 บาท สองหมื่นหนึ่งพันสี่ร้อยยี่สิบแปดบาทถ้วน (ปัจจุบันปิดรับบริจาคแล้ว)


จึงขอสรุปการใช้จ่ายเงิน และ ความช่วยเหลือผ่านช่องทางบล็อกเกอร์นี้ เพื่อชี้แจงให้ทุกท่านทราบ และขอแจ้งว่าเราได้ปิดการรับบริจาคแล้ว และยายกับหลานพร้อมสู้ มีข้อสรุปดังนี้


1. หลานคนเล็ก อายุ 1 ขวบ 4 เดือน 
          ได้รับความช่วยเหลือโดย พี่เนส บรรลัยการช่าง ได้แชร์โพสออกไปและได้รับการติดต่อจาก คุณเหมียว เจ้าของ สมาร์ทคิดส์ เนอสเซอรี่ ให้ความอนุเคราะห์น้องเรียนฟรีจนถึงอายุ 3 ปีเต็ม โดยให้คุณยายรับผิดชอบเฉพาะค่านมและแพมเพิสเอง

2. หลานคนโต ไม่ต้องอยู่บ้านเลี้ยงน้องเเล้ว ได้กลับไปเรียนอย่างเดิม โดยพี่ฝน ได้พาคุณยายไปซื้อชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนเตรียมเปิดเทอม โดยใช้เงินบริจาคที่เพื่อนพี่น้องร่วมทำบุญกันมา โรงเรียนเทศบาลบ้านพระเนตร คณะครูชี้แจงว่า  ทางโรงเรียนให้น้องทานข้าวฟรี 3 มื้อ หรือห่อกลับบ้านได้หากน้องต้องการและมีผู้ใจดี ให้เงินน้องทานขนมวันละ 20 บาท


          คุณยายของเด็กๆ ปัจจุบันทำงานกับพี่ฝน รับจ้างวันละ 300 บาท ที่สมยศแบตเตอรี่ ซึ่งหลังจากนี้ไปพี่ฝนปิดการรับบริจาคแล้ว จะให้คุณยายสู้ด้วยตัวเอง ทำงานเลี้ยงหลานๆ การที่เราช่วยมากไม่ได้เพราะ พี่ฝนมีลูกน้องหลายคน หากช่วยแต่ยายคนเดียว ลูกน้องคนอื่นจะน้อยใจ พี่ฝนจึงต้องหยุดการช่วยเหลือแล้ว  เพราะอีกอย่างยายและหลานๆก็ได้รับการช่วยเหลือตามความต้องการทุกด้านเเล้ว  เท่าที่ตามข่าวลูกของยายหรือแม่ของเด็กตอนนี้ความเป็นอยู่ดีครับ กินดีอยู่ดีเลย ตามความเข้าใจตอนนี้ผมเข้าใจว่า เขาคงไม่สนแม่และลูกของตนเองเเล้ว ใช่หรือไม่ ได้แต่หวังว่าเขาคงคิดได้และกลับมาทำหน้าที่แม่ หรือ ลูก ในสักวัน คงต้องปล่อยไปตามกฎแห่งกรรม "ใครทำอะไร ก็ได้อย่างนั้น" อันนี้แม่ผมสอนมา
          เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา พี่น้องทหารจาก มทบ.38 ได้ส่งกำลังพลทหารกว่า 10 นาย ช่วยยายและน้องๆ ขนย้ายบ้านจากตำบลถึมตอง กลับเข้ามาอยู่ในเมือง เพื่อความสะดวกในการรับส่งหลาน และความสบายใจของยาย ส่วนบ้านหลังที่ปลูกไว้นั้น ยายประสงค์จะขายเป็นวัสดุก่อสร้างยกหลัง หรือใครอยากได้ยกโครง ก็มาดีดไปเลยทั้งหลังก็ได้

ยายต้องการขายบ้านยกหลังเป็นวัสดุมือสอง เพื่อต้องการเงินไปทำทุน


บ้านหลังใหม่ เล็กแต่อบอุ่น ขอบคุณพี่น้องทหารจาก มทบ.38 ครับ

                  จากยอดเงินบริจาค 21,428 บาท ขออนุญาตชี้แจงด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่ยืดยาวนะครับ เราเอาไปซื้อข้าวของเครื่องใช้เท่าที่จำเป็น เพราะหลายอย่างได้รับบริจาคจากผู้ใหญ่ใจดี สิ่งที่ซื้อเล่น ตู้เย็น เติมแก๊ส ค่าเช่าบ้าน ชุดนักเรียน นม แพมเพิส ให้เงินยายซื้อของสด ยารักษาโรค ฯลฯ  รายจ่ายทั้งสิ้น 10,792 บาท คงเหลือ 10,636 บาท หักค่าเติมแก็ส(ลืมรวม)อีก 480 คงเหลือจริง 10,156 บาท พี่ฝนได้สรุปค่าใช้จ่ายและส่งมอบให้คุณยายเป็นที่เรียบร้อย
โดยมีพี่เนส พี่ป๋องและผมร่วมเป็นพยานรับรู้



.......................................................

สุดท้ายนี้ต้องกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่าน ที่ร่วมทำบุญผ่านพี่ฝนเพื่อช่วยเหลือครอบครัวๆนี้ แม้สิ่งที่เราทำกันในครั้งนี้ จะไม่สามารถช่วยเหลือเขาต่อเนื่องได้ในระยะยาว แต่มันก็เป็นการต่อชีวิตของครอบครัวๆหนึ่งให้มีความหวังในการดำเนินชีวิตต่อไป เพื่อนๆท่านใดประสงค์ช่วยเหลือต่อเนื่อง ขอให้ติดต่อครอบครัวของยายเองโดยตรง พวกเราขอหยุดการทำหน้าที่สะพานบุญไว้เพียงเท่านี้ เพราะไม่อยากข้ามหน้าข้ามตาหน่วยงานใด เราทำก็เพราะแค่อยากทำเท่านั้น  การชี้แจ้งของเรานั้นทำให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้เเล้วในตอนนี้ครับ(หาทางลงอย่างไรดี จะได้สวยๆ) .......ก็ขอกราบอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย ช่วยดลบันดานให้ทุกท่านที่ร่วมบุญในครั้งนี้ ประสบพบเจอแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตนะครับ คิดเงินขอให้ได้ทอง คิดทองก็ขอให้ได้ทอง(ทองแพงช่วงนี้) แล้วพบกันใหม่หากมีบุญสัมพันธ์ครับ ขอบพระคุณครับ
............................................























ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เครปเรนโบว์จังหวัดน่าน

รายละเอียดแฟรนไชส์เครปเช็คอิน

เด็กเล่นขายของสู่รายได้ 120,000ต่อเดือน